หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดเส้นทางบกขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนด้วยเส้นทาง R3 ภายใต้ พิธีสารฯ บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งสองประเทศได้ว่า ผลไม้ที่นำเข้าและส่งออกจากทั้งสองประเทศจะมีมาตรฐานความปลอดภัย และคุณภาพที่เท่าเทียมกัน โดยผ่านการตรวจสอบและรับรองสินค้าภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เดินหน้าต่อด้วยการศึกษาข้อมูลเตรียมเปิดเส้นทางใหม่ เช่น R8 และ R12 เพื่อเป็นการเปิดช่องทางในการกระจายสินค้าเกษตรออกนอกประเทศ ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำเหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ลำไย ลองกอง เงาะ มังคุด ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นการขยายตลาด และผู้บริโภคในจีนให้รู้จักผลไม้ไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออก และรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ในการแถลงข่าว เปิดยุทธศาสตร์เส้นทางอาหารปลอดภัยในทศวรรษใหม่ กับ มกอช. เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2554 ณ โรงแรมพูลแมน พัทยา จังหวัดชลุบรี ว่า “ ประเทศจีน เป็นประเทศขนาดใหญ่ ที่มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ด้วยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคสินค้าและบริการทั้งที่ผลิตขึ้นเองภายในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น เมื่อความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นก็จะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยในการส่งสินค้าเข้าไปขายในประเทศจีน รวมทั้งอาจจะมีการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ที่อยู่ในเส้นทางขนส่ง เช่น ลาว และเวียดนาม นอกจากนี้ ด้วยข้อตกลงร่วมกันในการขนส่งสินค้าเข้าออก จะนำมาซึ่งการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรของทั้งสองประเทศ ที่ต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่จะนำเข้าหรือส่งออกจากทั้งสองประเทศ ว่ามีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานหรือไม่ มีการบรรจุหีบห่อ และการขนส่งที่ปลอดภัย ไม่มีการปลอมปนสินค้า และสามารถตรวจสอบที่มาของสินค้าได้ ที่ผ่านมาด้วยราคาของสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงกว่าการจำหน่ายภายในประเทศได้สร้างแรงผลักดันให้เกิดกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการส่งออก ซึ่งหากการส่งออกมีการขยายตัวมากขึ้น ก็จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรไทยก้าวเข้าสู่ระบบมาตรฐานสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น จนอาจจะกลายเป็นค่านิยมและแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตสินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัยได้มาตรฐานไม่เฉพาะเพื่อการส่งออก แต่เพื่อเกษตรกรผู้ผลิตเองที่จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และผู้บริโภคภายในประเทศที่จะได้บริโภคสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยเท่าเทียมกับผู้บริโภคในต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามยุทธศาสตร์มาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยของโลกอย่างแท้จริง”
ด้วยโอกาสทางการตลาดที่พร้อมรับการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตร ที่จะนำไปสู่เป้าหมายการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐานทั่วประเทศ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ยังคงมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐาน กำกับ ดูแล ควบคุม และส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน รวมถึงเข้าร่วมเจรจาแก้ไขปัญหาทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับสุขอนามัย สินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อป้องกันความเสียหายอันจะเกิดแก่ประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้สินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น