องค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองระบบ (International Accreditation Forum : IAF) ได้ออกมาประกาศการยอมรับความเท่าเทียมในขอบข่ายการรับรองผลิตภัณฑ์ (Multilateral Recognition Arrangement : MLA) ของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ซึ่งเท่ากับเป็นการประกาศถึงความสามารถของ มกอช. ในการรับรองระบบงาน ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จากประเทศสมาชิกของ IAF กว่า 50 ประเทศ ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ กลุ่มองค์กรภูมิภาคแปซิฟิคว่าด้วยการรับรองระบบงาน (The Pacific Accreditation Cooperation : PAC) กลุ่มองค์กรภูมิภาคยุโรปว่าด้วยการรับรองระบบงาน (European Cooperation for Accreditation : EA) กลุ่มองค์กรภูมิภาคแอฟริกาใต้ว่าด้วยการรับรองระบบงาน (Southern African Region Accreditation Cooperation : SARAC) และกลุ่มองค์กรภูมิภาคอเมริกาว่าด้วยการรับรองระบบงาน (InterAmerican Accreditation Cooperation : IAAC)
การได้รับการยอมรับในความเท่าเทียมดังกล่าว จะทำให้ มกอช. ได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับในระดับสากลจากประเทศคู่ค้า ซึ่งจะส่งผลให้การรับรองผลิตภัณฑ์ด้านสินค้าเกษตร ภายใต้การรับรองระบบงานโดย มกอช. เช่น GAP และ Organic เป็นที่ยอมรับของหน่วยรับรองระบบงาน สินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ได้รับการรับรองเป็นที่เชื่อถือ ก่อให้เกิดการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารได้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถส่งออกสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายจากการตรวจสอบซ้ำซ้อน ลดข้อกีดกันหรืออุปสรรคเทคนิคทางการค้าระหว่างประเทศ จากการยอมรับของประเทศคู่ค้า อีกทั้งสามารถให้เกิดการรับรองครั้งเดียวเป็นที่ยอมรับภายใต้ข้อตกลงการยอมรับร่วม (Multilateral Recognition Arrangement : MRA) ตามกลไกการตรวจประเมิน เพื่อการยอมรับร่วม
ขณะนี้ มกอช. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดให้การรับรองระบบงานในขอบข่ายด้านการจัดการความปลอดภัยอาหาร ตาม ISO/TS 22003 เพื่อตอบสนองผู้ประกอบการอาหารที่ตื่นตัวขอรับรองระบบ เนื่องจากประเทศคู่ค้าให้ความสำคัญ และต้องการสินค้าที่มาจากประเทศที่มีโรงงานที่มีระบบ Food Safety ประกันความปลอดภัยของสินค้าตลอดระบบห่วงโซ่อาหารมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบการรับรองมาตรฐาน BRC (British retail Consortium) หรือมาตรฐานสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่ง สหราชอาณาจักร ที่ผู้ประกอบการค้าปลีก เช่น Tesco Waitrose และ Safeway นำมาใช้เป็นข้อกำหนดในการรับรองสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสหราชอาณาจักรและกลุ่ม EU ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการค้าปลีกเหล่านี้เป็นช่องทางที่จะช่วยกระจายสินค้าเกษตรไทยไปสู่ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยคาดว่าจะเปิดให้ยื่นคำขอเพื่อการรับรองทั้งสองระบบ ได้ภายในปี 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น